วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553




คำคมของขงเบ้ง

**เกียรติยศย่อมเกิดจากการกระทำที่สุจริต

**ถ้าคุณหัวเสีย คุณจะเสียหัว

**อย่าไล่สุนัขให้จนตรอก อย่าต้อนคนให้จนมุม

**อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล

อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย

**ถ้าคุณคิดจะเป็นใหญ่ คุณก็จะได้เป็นใหญ่

ถ้าคุณคิดอยากเป็นอะไร คุณก็จะได้เป็นสิ่งนั้น

**เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ

มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย

ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"

**นกทำรังให้ดูไม้ ข้าเลือกนายให้ดูน้ำใจ

**ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุด

ก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติ คือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น

**จริงคือลวง ลวงคือจริง ถ้าคุณคิดว่าข้าศึกมีทางเลือก

เพียง 2 ทาง จงแน่ใจได้ว่าเขาจะเลือกทางที่ 3

**ถ้าสติไม่มา ปัญญาก็ไม่มี

**มังกรถ้าไร้หัว หางก็ตีกันเอง ถ้าคานบนเอน

คานล่างก็เบี้ยว ถ้าเสาเอกเฉียง เสาโทก็เฉียง

**คนมองไม่เห็นการณ์ไกลภัยก็จะมาถึงตัว คนไม่รู้จักตัดไฟภัยก็จะน่ากลัว

**ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า แม้เทวายังสยบหลบทางให้

จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องไห้วันหนึ่งแน่ คราวแพ้มี

**ไม้คดใช้ทำขอเหล็กงอใช้ทำเคียว แต่คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย

**เล่นหมากรุก อย่าเอาแต่บุกอย่างเดียว เดินหมากรุกยังต้องคิด

เดินหมากชีวิต จะไม่คิดได้อย่างไร

**เมื่อเสียหลักก็ต้องหลบอย่างฉลาด เมื่อพลั้งพลาดต้องรู้หลีกใส่ปลีกหาง

ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆทำ ค่อยคลำทาง จึงจะย่างสู่จุดหมายเมื่อปลายมือ

**ปลาใหญ่มักตายน้ำตื้น

**เกียรติยศย่อมเกิดจากการกระทำที่สุจริต

**เมื่อใครสักคนหนึ่ง ทำผิด ท่านอย่าเพิ่งตำหนิหรือต่อว่าเขา

เพราะถ้าท่านเป็นเขาและตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นเดียวกับเขา

ท่านอาจจะตัดสิน ใจทำเช่นเดียวกับเขาก็ได้

**การบริหารคือการทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยมือผู้อื่น

**ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสารมารถของตนอย่างเต็มที่

ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่นอย่างเต็มที่

ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่นอย่างเต็มที่

**อ่านคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น

**เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ใช่ หรือ อาจจะ" เขามีความหมายว่า

"อาจจะ" เมื่อนักการฑูตพูดว่า "อาจจะ" เขามีความหมายว่า

"ไม่" เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ไม่" เขาไม่ใช่นักการฑูต

เพราะนักการฑูตที่ดีจะไม่ปฏิเสธใคร

**เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ไม่" หล่อนมีความหมายว่า "อาจจะ"

เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "อาจจะ" หล่อนมีความหมายว่า "ใช่ หรือ ได้"

เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ใช่ หรือ ได้" หล่อนไม่ใช่สุภาพสตรี

**คิดทำการใหญ่ อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อย

**ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ

มองเห็นคิ้วของตน คนส่วนใหญ่ใส่ใจกับผลได้ระยะสั้นเท่านั้น

แต่คนฉลาดอย่างแท้จริงจะมองไป ยังอนาคต

**อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล

อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย

**ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า แม้เทวายังสยบหลบทางให้

จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องให้วันหนึ่งแน่ คราวแพ้มี

**ตัดไผ่อย่าไว้หน่อ ฆ่าพ่ออย่าเหลือลูก

คิดทำการใหญ่ ใจคอต้องเหี้ยมหาญ

**ข้าพเจ้ายอมทรยศต่อคนทั้งโลก ดีกว่าให้คนในโลกทรยศต่อข้าพเจ้า

**เป็นแม่ทัพแล้วไม่กล้าตัดหัวคน เป็นแม่ทัพที่ดีไม่ได้

**คนฉลาดปราดเปรื่อง เขานั่งนิ่งสงวนคม

**ไม่มีใครเลี้ยงอาหารใครเปล่า ๆ โดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน

**ศัตรูที่ร้ายเหลือ ไม่เท่าเกลือเป็นหนอน

**ความรู้ คือ อำนาจ

**นั่งภูดูเสือ กัดกัน

**เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน ฉะนั้นจึงอย่าประมาท

**ถ้าเป็นกษัตริย์แล้วไม่โลภ ก็เป็นกษัตริย์ที่ดีไม่ได้

ถ้าเป็นนักบวชแล้วโลภ ก็ เป็นนักบวชที่ดีไม่ได้

**ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน

**น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำฉันใด เราก็กลายเป็นคนฉลาดในช่วงเวลาลำบากฉันนั้น

**ดวงอาทิตย์ทำให้ทุกสิ่งกระจ่างชัด แต่ เรายังต้องทำความเข้าใจ

ในส่วนที่มืด ซึ่งยังคงดำรงอยู่



เอื้อเฟื้อข้อมูลโดยเฟอกี้ http://www.pantown.com/board.php?id=24101&area=3&name=board1&topic=151&action=view

วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

บางครั้งที่หัวใจหักมุม อย่าได้ซวนเซ





ที่ผ่านมา…แม้เรามีเขาก็จริง

แต่…เราอยู่เพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อเขา

คนที่เคยมีใครคนหนึ่ง…ให้รัก หรืออยู่ใกล้กันมานาน…

ความแข็งแรงของหัวใจ ก็จะค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น

คล้ายกับคนข้างๆ เรา … ที่คอยช่วยส่งแรงใจให้เรา

มีพลังทำอะไรหลาย ๆ อย่าง

แต่เมื่อวันหนึ่ง…คนที่เคยอยู่ให้เรารัก เขาได้จากเราไป…

ความอ่อนแอที่เราไม่คุ้นเคย ก็จะค่อยๆ คืบคลานเข้ามาทันที…

ที่เราบอกตัวเองด้วยประโยค 3 ประโยค

"เขาไปแล้ว…" "ไม่มีใครให้เรารักอีกแล้ว…

" และ "ชีวิตเรามันเปลี่ยนไปแล้ว…"

แต่คุณรู้ไหมว่า …สิ่งเดียวที่ทำให้เรารู้สึก

เหมือนขาดคนๆ นั้น แล้วเราจะอยู่ไม่ได้

นั่นคือ…เราคิดว่า เราอยู่เพื่อเขามาตลอด

ถ้าเขาจากไป…เราก็ไม่รู้จะรักใคร

เพราะฉะนั้น แค่เราบอกกับตัวเองว่า… แต่เราอยู่เพื่อตัวเอง…

ไม่ใช่เพื่อเขา เราก็จะสามารถอยู่กับตัวเองต่อไป

โดยที่เขาไม่จำเป็น ต้องอยู่กับเราด้วย

และเราก็สามารถทำเพื่อตัวเองต่อไป

แค่ไม่ต้องคอยแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้ใคร เหมือนที่เคยทำอีก …

ทุกคนที่อยู่กับความรัก …มาเป็นเวลายาวนาน

มักจะรู้สึกคิดและผูกพันกับอะไรๆ ที่เรียกว่า "รัก" …

แววตาอบอุ่น คำพูดหวานๆ เสียงหัวเราะสดใส

ของการหยอกล้อแกล้งกัน รวมถึง …การช่วยเหลือ

ดูแล ปลอบใจกันและกัน และนั่นคือสิ่งที่สำคัญ

ที่ทำให้ความผูกพันมันเกิดมากขึ้น

จนกระทั่งเราอาจเริ่มรู้สึกว่า…

เราขาดใครอีกคนไปไม่ได้

แต่หากว่า…วันนี้เป็นวันที่คุณกำลังเศร้า

เพราะเวลาของการจากลานั้น(ต้อง)มาถึง

ทำอย่างไร…คุณถึงจะอยู่ได้ ?

ทำอย่างไร…คุณถึงจะเข้าใจการจากลานั้นได้ดี

จนไม่รู้สึกเสียใจอะไรเลย… ทุกอย่าง…มันก็ขึ้นอยู่ที่คุณคิด

ถ้าคุณอยากคิดว่าเขายังอยู่ …

ให้คิดว่า…เขายังวนเวียนอยู่ในโลกนี้ ไม่ได้ไปไหน

ไม่ต้องเสียใจให้กับการจากไปของเขาขนาดนั้น

แต่ถ้าคุณอยากจะคิดว่า…เขาไปแล้ว

ให้คิดว่า…เขาไปจากโลกนี้แล้ว ไม่มีคนชื่อนี้อีกต่อไป…

และไม่ต้องเสียใจ ... ให้กับเขาอีกเช่นกัน ไม่ต้องเสียใจ…

อาจจะดีก็ได้ที่ไม่มีใคร ให้รักสักช่วงเวลาหนึ่ง

เพราะมันอาจทำให้คุณ…เริ่มกลับมาอยู่เพื่อตัวเองอีกครั้ง...



ขอบคุณบทความดี ๆ จาก http://atcloud.com/stories/25387

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ระหว่างทาง...ของการเดินทางถอยกลับ





เคยไหม...ที่คุณก้าวเดินไปข้างหน้า

แต่รู้สึกว่ามันเป็นการถอยหลังกลับ

เคยไหม...ที่ท้องฟ้าในโลกส่วนตัวของคุณ

กลับเปลี่ยนจากสีฟ้ามาเป็นเมฆครึ้มสีเทาหม่น

โดยไม่มีเค้าลางแห่งพายุร้าย

ทุกอย่างพัดพาคุณกลับไปสู่จุดเริ่มต้น หรือไกลกว่านั้น

เปลี่ยนจากรอยยิ้มเป็นหยดน้ำตา

เปลี่ยนเสียงหัวเราะเป็นเสียงสะอื้นไห้

ความทุกข์เข้ามาทดแทน วันเวลาแห่งความสุขของคุณจนหมดสิ้น

ความคาดหวังคือปัจจัยหลักของความทุกข์

ความฝันบางครั้งก็เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดทุกข์

ชีวิตคนเรามีปัญหา เพิ่มมากขึ้นตามวันเวลาที่หมุนไป

ทุกๆ วันเหมือนกับต้องตื่นขึ้นมา เพื่อเดินเข้าไปในสมรภูมิรบ

ฟาดฟันกับปัญหา หากคุณชนะคุณก็จะเดินจากมา

พร้อมความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง

หากคุณแพ้คุณก็อาจล้มจมอยู่กับที่

แล้วจะมีใครสักกี่คนบนโลกใบนี้

ที่จะคอยยื่นมือให้ความช่วยเหลือเมื่อเราเจ็บปวด

เอาเข้าจริงในโลกใบนี้...เราจะมีใคร?

ใครที่เป็นของเราจริงๆ เกิดมาเพื่อเราจริงๆ

บทเรียนของการเดินถอยหลัง ทำให้รู้ว่าความคาดหวัง

มักมาพร้อมกับความผิดหวังเสมอ

เราคาดหวังว่าจะมีใครมาร่วมแบ่งปันความรู้สึก

คอยประคับประคองอยู่เคียงข้าง...คอยรับเมื่อเราล้ม

แล้วตั้งความหวังว่าเขาจะยืนอยู่เคียงข้างเราไปจนวันตาย

มีลมหายใจของกันและกันอย่างอบอุ่น

แต่ในโลกของความเป็นจริงก็คือ...เราต้องยืนด้วยตัวเองให้ได้

หายใจด้วยตัวเองให้ได้...ลุกด้วยตัวเองให้ได้

อ้อมแขนและลมหายใจของคนอื่น เป็นเพียงส่วนประกอบ

ที่ทำให้เราเต็มพร้อมสมบูรณ์ เราจำเป็นต้องก้าวเดินต่อไปให้ได้

แม้ไม่มีส่วนประกอบนั้นก็ตาม

ฉันได้เรียนรู้ว่า...ความฝันจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง

เพื่อลดความเจ็บปวดในชีวิต เช่นเดียวกับความรัก

สิ่งที่เรามอบไปอย่างทุ่มเท...

โดยไม่เคยคิดถึงความผิดหวังที่จะตามมา

มักทำให้เราเจ็บปวดจนสุดจะทน ความรัก...เปลี่ยนแปลงได้

รอยเท้าของเราเหยียบย่ำไปท่ามกลางความสับสน

บางครั้งเข็มนาฬิกาก็เดินเร็วขึ้น...บางครั้งกลับเดินช้าลง

ทุกอย่างไม่เป็นดั่งที่วาดหวังไว้เสียที

เพราะเราควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้

ความคิดของเขา...อาจทำให้เราเจ็บปวดจนสุดจะทน

แต่เราก็ยังจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่...เพื่อรับรู้ถึงความเจ็บปวดนั้น

ดังนั้นเมื่อมีน้ำตาและตัดสินใจว่าจะต้องเปลี่ยนแปลง

อย่าหันกลับไปทางเดิม เพราะเรากำลังจะเดินจากมันมา...

อาจไม่ใช่เขาหรือเราเป็นคนไม่ดี

แต่ในบางเรื่อง...ก็อาจมีเหตุผลมากกว่าหนึ่งอย่าง

อย่าพูดว่าเราทำเพื่อเขา...แต่กลับเอาตัวของเราเป็นที่ตั้ง

เพราะนั่นไม่ใช่รักที่แท้จริง ถ้าบนทางเดินที่ผ่านมาเราก้าวเร็วเกินไป

มองย้อนกลับไปดูตัวเองใหม่...

แล้วหัดเดินให้ช้าลง





ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.tamdee.net/