วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ในเหตุผลคือความว่างเปล่าไร้ซึ่งเหตุผล






If you always do what interests you,


then at least one person is ploased.


...

...


บางครั้งมันก็เป็นการยาก ที่เราจะต้องทำใจ


ให้เข้าใจกับเหตุผลของใครบางคน


ทั้งที่ถ้านั่นเป็นเหตุผลของเรา...เรามักคิดว่ามันดูเพอร์เฟ็ค


ทั้งที่ความจริง มันอาจดูเป็นเหตุผลงี่เง่าในความรู้สึกคนอื่น


แต่ตัวเรา...ก็มักคิดไปว่ามันเข้าท่าเสมอ


ดูมีสาระ เป็นเหตุเป็นผล ที่สำคัญ...ถูกต้องและน่าจะดีที่สุดแล้ว


ดังนั้น...ถ้าคนเราจะรับฟังเหตุผลของคนอื่น


ด้วยความรู้สึกเหมือนกับที่เชื่อในเหตุผลของตัวเองบ้าง


ก็คงจะดีไม่น้อย


เหมือนคนเราคบหากัน ช่วงแรกก็ถูกอกถูกใจ


คุยอะไรก็ถูกคอ อย่าไปหาเหตุผลเลยว่าทำไม


ก็มันถูกใจซะอย่าง ประมาณว่าถูกชะตา คบหาแล้วสุขใจ


แต่เมื่อเวลาผ่านไป...


คนสองคนเริ่มรู้จักกันมากขึ้น สนิทกันมากขึ้น


เหตุผลต่าง ๆ ก็เริ่มมีบทบาทตามมามากมาย


ทำไมไม่เป็นอย่างนี้นะ อย่างนั้นนะ


ทำไมนิสัยอย่างนี้ล่ะ น่าจะเป็นอย่างนี้มากกว่า


ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตัวเอง


จนวันหนึ่งการคบหามาถึงจุดแห่งความขัดแย้ง


ไอ้เจ้าเหตุผลทั้งหลายทั้งปวงดูจะมีบทบาทชัดเจนขึ้น


เพราะอย่างนี้ อย่างนั้น ไอ้นั่น ไอ้นี่


ทำให้คนเราเกิดทิฐิ เกินกว่าที่จะละวาง


แล้วกลับมาคบหากันดังเดิมได้


...


...


ส่วนตัวเราคิดว่า ระหว่างคนสองคนที่คบหากัน


ไม่มีใครถูกหรือว่าผิด เพราะคนเราเติบโตมาบน


พื้นฐานที่แตกต่าง ประสบการณ์ที่แตกต่าง


นั่นย่อมทำให้วิธีการคิดแตกต่างกันตามไปด้วย


ต่างคนต่างมีความเชื่อ มีมุมมอง มีความต้องการที่ต่างกันไป


และรวมถึงเลือกวิธีการจัดการยุติเรื่องราวปัญหาลงด้วย


ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่า ใครมองมุมไหน ยังไง


ใครถูก ใครผิด แต่มันสำคัญที่ว่า...มิตรภาพที่คบหากันมา


มันมีค่าพอไหม มีค่าพอเกินกว่าที่คนสองคน


จะหันมาปรับความเข้าใจกัน และฟังเหตุผลซึ่งกันและกันได้ไหม


บางคนหันหลังให้กัน...ทั้งที่ยังไม่ได้ปริปากพูดอะไรเลย


นอกจากปล่อยให้ความคิดโบงการจับจูงหัวใจไป


เพราะอีกฝ่ายคิดว่าไม่แคร์ ใครอยากคิดอะไรก็ช่าง


ในขณะที่อีกฝ่ายอาจจะแคร์ แต่ก็เหนื่อยเกินกว่าจะวิ่งตามหาความเข้าใจ


คนสองคนจึงเดินจากกันไป...อย่างน่าเสียดาย





บันทึกไว้ ณ บ่ายวันพุธที่อบอ้าว























































































































































































































































13 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ14 ตุลาคม 2552 เวลา 13:32

    ถ้าเชื่อในมิตรภาพ
    จะรู้จักสิ่งดี ๆ มากมาย

    รู้จัก...ว่าเมื่อไหร่ควรเข้าใจ
    รู้จัก...ว่าเมื่อไหร่อภัย
    รู้จัก...ว่าเมื่อไหร่ควรขอโทษ

    รู้ว่า ... ม่ะไหร่ จากวนประสาทได้

    และ อื่น ๆ อีกมากมาย

    มาติกโดนใจให้ทุกเอนทรี่เลย
    พี่ทน จะเลี้ยงอ่ะไร พิม ดี

    ตอบลบ
  2. แวะมาหา ในวันพุธ ที่แสงแดงเปรี้ยงปร้างงงงง

    ..

    ยังไม่ได้คอมเมนท์ อะไรเกียวกับเนื้อหา ข้างบน
    เพราะเด่ว ไปซักผ้าก่องค่ะ
    ..

    จุ๊บ ๆๆๆ ฝากความคิดถึงไว้ก่อง

    ตอบลบ
  3. pim
    ---

    เชื่อนะ...ในมิตรภาพ
    แต่ในสิ่งดี ๆ ที่เราจะ "รู้จัก...ว่า"
    มันก็ย่อมมีช่องว่างอยู่ดี
    เหมือนกฏหมาย
    ใครก็ว่าเป็นบทบัญญัติ ทุกคนต้องปฏิบัติ
    แต่มันก็ยังมีช่องว่างที่ละไว้อยู่ดี
    เช่น...ยกเว้นนั่น ยกเว้นนี่
    มิตรภาพก็เป็นเช่นนั้นแหละ pim
    เคยต้องหันหลังให้กับคนที่รู้สึกดีเหมือนกัน
    ทั้งทีบางครั้ง ตัวเองยังไม่ได้เลือกเลย
    ว่าจะแก้ไข หรือตัดสินใจยังไง
    แต่อีกฝ่ายก็เลือกแล้วที่จะปล่อยมือเรา
    ไอ้เราก็นะ...ไม่ได้ทิฐิ
    แต่เหนื่อย ขี้เกียจไปง้อ
    หรือว่าแก่ไปก็ไม่รู้นะ จะ 40 แล้ว
    อยู่นิ่ง ๆ น่าจะเหมาะกว่า
    คนเลือกเค้าก็เลือกแล้ว
    เราก็ยอมรับแล้วกัน
    คิดง่ายไปมั้ย
    ไม่ใช่ไม่รู้สึก ไม่ใช่ไม่ผูกพัน
    แต่เหนื่อย (หัวใจ)

    ตอบลบ
  4. นู๋นิด
    ---

    จะไปซักผ้าเหรอ ได้ .. ได้

    แต่อย่าเพิ่งไปดิ จะฝากผ้าไปซักด้วย นะ นะ

    แบบวันนี้ติดงาน ไม่มีเวลาอ่ะ

    เป็นพี่เป็นน้องกัน ช่วย ๆ กันหน่อยได้ป่าว เอิ๊ก เอิ๊ก เอิ๊ก

    เอ๊ย...ไหว้วานแค่เนี่ย อย่าทำหน้าหงิก ๆ ยิก ๆ ยุก ๆ ดิ

    เดี๋ยวทิปยี่เสิบ เอ๊า

    อ่ะแน่ะ...

    ยังมีแอบทำปากขมุบขมิบ

    อ๋อ...สงสัยจะขอบคุณที่ทิป

    แล้วไป

    ^-------------^

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ14 ตุลาคม 2552 เวลา 14:41

    นิด ณ. พิดโลก

    พี่ทน ฝากได้ค่ะ
    ของที่บ้านไม่เยอะค่ะ
    เพราะนิด ส่งซักผ้า รายเดือนค่ะ
    ซักสะอาด รีดเรียบใช้ได้ 3 คน เดือนละ 700 บาท
    จะซักเองเป็นบางอย่างค่ะ
    ไม่ซักไม่ได้ สงสารเครื่องซักผ้า เด่วจะเหงา
    ...

    เริ่มซัก แล้ว
    แต่ไง ฟ้าครึ้มอ่าพี่
    เหมือนจะแกล้งกันยังไงไม่รู้โน๊ะ
    ....

    ว่าแต่ ให้ ทิป ยี่สิบ ยี่เสิบนี่
    ค่าไฟ ค่าแฟ้บ ค่าน้ำ ค่าน้ำยาปรับผ้านุ่ม ค่าเสียเวลา
    โอ้ย อีกหลายฆ่า เอ้ยยยย ค่า
    จะพอไหมพี่ทน
    แบบนี้ ต้อง สองพันแล้วค่ะ ยี่สง ยี่เสิบ ไม่พอหรอค่ะ
    ถ้ายี่สิบนะ ซักได้แต่ผ้าเช็ดหน้าของน้องตะวันเค้าค่ะ
    555

    ....
    ว่าแต่ สองพันนี่โหดไปโน๊ะ
    อะ ๆ งั้นลดให้ เหลือ
    หนึ่งพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทเก้าสิบเก้าสตางค์
    อันนี่ ลดแบบขาดทุนนะคะพี่ทน
    ราคากันเอ๊ง กันเองค่ะ จุ๊บบบ ๆๆๆๆ
    ไม่รักไม่ลดให้นะเนี่ย ...อิอิ...

    ตอบลบ
  6. เอื้อกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    เสียงกลืนน้ำลายลงคอจ้ะ เอาสองพันเลยเชียวรึแม่หนู

    ขนหน้าแข้งพี่ทนคงร่วงกราวแบบชนิดถอนรากถอนโคนเชียวล่ะเนี่ย

    ชาตินี้ไม่ขึ้นอีกเลยมั้ง อิอิ

    ยี่สิบนั่นล่ะ...นั่นล่ะ ขาดตัว...

    จะยอมไม่ยอม แม้นไม่ยอม พี่จะปล้ำ พี่จะปล้ำให้หนำใจ

    อะเจ๊ยยย...นั่นมันกลอนลิเกของคุณน้องไชยา มิตรไชย เค้านี่เน๊าะ

    ลืมตัวไปโหน่ย

    เอาน่า...คนกันเองยี่สิบแล้วกัน ยี่สิบนี่พี่ก็ยังมีไม่ค่อยจะครบดีเลย

    เดี๋ยวไปค้น ๆ ที่เก๊ะหน้ารถก่อน อิอิ

    นะ นะ...คนดี

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ16 ตุลาคม 2552 เวลา 16:26

    ^__^

    เข้าใจเลยว่าเหนื่อยยังไง
    แต่ก็สู้เนาะ

    ตอบลบ
  8. แขกคนล่าสุดที่มาเยี่ยมนี่ใครน๊อ

    ที่ว่าเข้าใจ...เข้าใจถูกป่าวน๊อ

    แต่เอา..สู้ก็สู้ ^^

    ตอบลบ
  9. พี่ทน...
    แอบอ่านอยู่น้าาาาาา

    ตอบลบ
  10. รำพึง
    ----

    จริงดิ...ซุ่มเหรอ

    ก็ยังดี...นึกว่าชวนมา

    แล้วแบบดำน้ำบุ๋ม ๆ ๆ หายไปซะอีก

    คิดถึงเน้อ

    ตอบลบ
  11. พี่ทน

    วันนี้ ข้าน้อยมาอยู่บ้านนี้

    มากวาดบ้าน

    คือว่า กลัว บ้านโดดยึดอ่ะ

    ตอบลบ
  12. พี่ คิดถึงจังเลย
    ทำงานเหนื่อยป่ะคะ
    สู้ ๆ น๊า
    นู๋ เองก็สู้ ๆ เหมือนกัน

    ดูแลตัวเองนะคะ

    ตอบลบ
  13. มาหา

    เห็นหายไปนานมาก

    ยังสบายดีอยู่ไหม

    อย่ามาเล่นซ่อนแอบ

    เห็นเราหายไป

    เลยหายตามใช่ไหม

    555

    ตอบลบ